๑๖/๑๓ การอธิษฐานจิตและศรัทธาในกรรมฐาน


                ปัจจุบันข้าพเจ้านางชุติกาญจน์  นากดี  มีอายุ  ๔๒  ปี  สามีชื่อนายภูริวัจน์  มีบุตรสาว  ๑  คน  ชื่อกนกลักษณ์  ชื่อเล่นว่า  “ทราย”  เปิดร้านถ่ายรูป  ล้าง – อัด  ภาพสี  ถ่ายภาพสตูดิโอแบบครบวงจรที่จังหวัดบุรีรัมย์  ชื่อ  “ร้านฉายารัตน์โฟโต้เอ็กซ์เพรส”  ตั้งอยู่ที่ถนนจิระ  ตำบลในเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดบุรีรัมย์

ข้าพเจ้าแต่งงานเมื่ออายุ  ๒๕  ปี  เป็นเวลา  ๘  ปีเต็มที่ไม่สามารถมีบุตรได้  พยายามทุกวิถีทางที่จะมีบุตรให้ได้  แม้ว่าจะต้องผ่าตัดถึง  ๓  ครั้ง  หมดค่ารักษาไปเป็นจำนวนมาก  ทำให้ข้าพเจ้าหมดกำลังใจ  ต้องทำใจว่าไม่สามารถที่จะมีบุตรได้แล้ว

ปาฏิหาริย์มีจริง  อยู่มาวันหนึ่งข้าพเจ้าได้ไปกราบหลวงพ่อจรัญที่วัดอัมพวัน  โดยการชักนำของคุณแม่พรสมบัติ  ปัทมาพรโกมล  ข้าพเจ้าจึงมีโอกาสอธิษฐานจิตต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดอัมพวันว่า  “ด้วยผลบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน  ขอให้ผู้มีบุญมาเกิดกับข้าพเจ้าด้วยเถิด  ถ้าสมปรารถนาแล้วข้าพเจ้าจะขอมาวิปัสสนากรรมฐานที่วัดอัมพวันแห่งนี้”

หลังจากนั้นอีกไม่นาน  ข้าพเจ้าก็ตั้งครรภ์โดยไม่คาดฝัน  และมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงจบครบ  ๓  เดือน  ข้าพเจ้าและคุณแม่พรสมบัติพร้อมคณะ  จึงไปวิปัสสนากรรมฐานที่วัดอัมพวัน  จังหวัดสิงห์บุรี

ช่วงที่กรรมฐานอยู่ที่วัด  ข้าพเจ้ามีอาการแพ้ท้องอย่างมาก  คุณป้าเสนอเกิดความเมตตาสงสารไปกราบเรียนหลวงพ่อ  พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีความเมตตาต่อข้าพเจ้ามาก  ได้มอบลูกมะตูมให้แก่ข้าพเจ้า  และบอกว่าให้เอาผลมะตูมไปต้มกินจนจืด  แล้วจะไม่มีอาการแพ้ท้อง  เด็กจะมีสติปัญญาดี  และเลี้ยงง่าย

หลังจากนั้นไม่นานอาการแพ้ท้องก็หายไป  จนครบ  ๙  เดือน  คลอดบุตรออกมาเป็นหญิง  คลอดโดยธรรมชาติ  ซึ่งคลอดง่ายมากอย่างไม่น่าเชื่อ

ข้าพเจ้าตั้งชื่อเล่นให้ลูกสาวว่า  “ทราย”  เป็นเด็กเลี้ยงง่าย น่ารักผิวพรรณดี  ฉลาด  ปัจจุบันอายุได้  ๘  ขวบ  เป็นโซ่ทองคล้องใจพ่อกับแม่ไว้ตลอดเวลา  เป็นเด็กที่สวดมนต์ได้เก่งมาก

วันที่  ๗  เมษายน  ๒๕๔๑  วันนั้นหลวงพ่อรับกิจนิมนต์ที่บุรีรัมย์  ซึ่งตรงกับวันที่ข้าพเจ้าและสามีได้รับอุบัติเหตุ  รถชนกัน  รถพังยับเยิน  แต่คนไม่เป็นอะไร  ข้าพเจ้าไปกราบเรียนหลวงพ่อ  หลวงพ่อบอกว่าถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุคราวนี้  สามีของข้าพเจ้าก็จะต้องตาย  หลังจากรถชนกันก็มีปัญหาตามมาอีกคือ  ฝ่ายตรงข้ามได้แจ้งความไว้ที่โรงพัก  จะเอาความกับข้าพเจ้า  และข้าพเจ้าก็ไปกราบเรียนหลวงพ่อ  หลวงพ่อบอกว่าให้ไปที่โรงพักเลยในวันที่ตำรวจนัด  ไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวดีเอง  เมื่อข้าพเจ้าทำตามหลวงพ่อ  ผู้ฟ้องร้องก็ถอนแจ้งความและไม่เอาผิด  เป็นไปตามคำพูดของหลวงพ่อทุกประการ

ก่อนหน้านี้  ข้าพเจ้าและสามีขัดแย้งทะเลาะกันบ่อยมาก  ทำให้ครอบครัวไม่มีความสุขเท่าที่ควร  ข้าพเจ้าจึงปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อ  คือ  ต้องอดทน  แผ่เมตตา  ขออโหสิกรรมต่อสามี  นั่งสมาธิ  เดินจงกรม  อธิษฐานจิตเป็นประจำ  กำหนดรู้อยู่ตลอดเวลา

หลังจากนั้นจิตใจของข้าพเจ้าเริ่มเย็น  (เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อน)  มีความอิ่มเอิบ  ปล่อยวางได้  เมื่อใจเป็นสุขไม่คิดที่จะแย่งชิง  โกรธ  เกลียด  พยาบาทใคร  ใจเป็นกลาง  ยอมชดใช้กรรมที่เกิดขึ้น  ทำใจยกสามีให้หญิงอื่นที่เขาไปติดพันอยู่  แต่กลับตรงกันข้ามเมื่อทำใจได้  สามีกลับไม่ไปไหน  ทำตัวดีขึ้นและไม่มีความขัดแย้งทะเลาะกันอีก

เมื่อเรามีความปราถนาดีต่อทุกคน  สิ่งที่ดีก็จะเข้าสู่ตัวเรา  ดังเช่นปัจจุบัน  ครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นครอบครัวที่อยู่เย็นเป็นสุข  สามีดี  ลูกน่ารัก  เป็นเด็กดี  ฉลาด  เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่  การค้าเจริญรุ่งเรือง  บริวารดี  สุขภาพกาย  สุขภาพจิตดี  ครอบครัว  “ธรรมะ”  ของข้าพเจ้าพร้อมที่จะทำประโยชน์เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา  ให้อยู่คู่ชาวไทยตลอดไป

สิ่งที่ปรากฎอยู่นี้คงเป็นผลของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน  ตามคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า  ซึ่งมีหลวงพ่อจรัญเป็นผู้สืบทอดและสั่งสอน  จึงทำให้ครอบครัวของข้าพเจ้าประสบความสุขและความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ที่สุด

ขอกราบนมัสการหลวงพ่อมาด้วยความเคารพ
ชุติกาญจน์  นากดี

 

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.htmlหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›