๒๒/๑๐ กรรมฐานเพื่อเป็นฐานของชีวิต

กรรมฐานเพื่อเป็นฐานของชีวิต
วรวรรณ พลายงาม

 

    ดิฉันใช้เวลา ๑๑ ปี ทำกรรมดีทำกรรมฐานสร้างฐานชีวิตให้เดินไปข้างหน้าพบทางสว่างในธรรม

    ที่ต้องใช้เวลายาวนานจนอาจทำให้ท้อใจก็เพราะว่า ๑๑ ปี นั้นดิฉันทำบ้างหยุดบ้างปีไหนลำบากต้องทำงานมาก ก็ทำกรรมฐานน้อย กลวงพ่อบอกว่าต้องเดิน ๑ ชั่วโมง นั่ง ๑ ชั่วโมง ดิฉันก็ทำได้แค่เดินครึ่งชั่วโมงนั่งครึ่งชั่วโมง บางวันต้องทำงานถึงตี ๑ วันนั้นก็หมดเวลา ท่านทั้งหลายอย่าทำแบบดิฉันเลย ถ้าใครทำอย่างนั้นจะไม่ได้อะไรเลย เสียเวลานั่งจนโบสถ์พังหลังทรุดก็แก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ มีบุญเท่าไรก็ไม่พอใช้หนี้ เจ้ากรรมนายเวรเอาหมด

    เมื่อประมาณสามปีที่แล้ว ดิฉันเจอคนใจบุญในวัดอัมพวันสอนให้สวดมนต์ จากหนังสือที่หลวงพ่อแจกตอนเย็นวันที่ ๓๑ ธันวาคมทุกปี ดิฉันจึงสวดมาตลอดสามปีทุกวัน เช้า-เย็น ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง สวดมนต์เสร็จต่อด้วยกรรมฐาน เดินหนึ่งชั่วโมง นั่งหนึ่งชั่วโมง ผลนั้นมาเงียบๆ ดังนี้

    จิตไม่รุ่มร้อน เมื่อนั่งสมาธิจิตจะรวมเร็วขึ้น คิดก่อนพูด ไม่ทำงานด้วยปาก หยิบอะไรไปใช้ก็เอามาเก็บที่ไม่วางส่งเดช ไม่บ่นมาก ให้อภัย ไม่โกรธ เลิกคิดแทนคนอื่น ใครทำอย่างไรได้อย่างนั้น หลวงพ่อบอก ให้เห็นตัวเอง ไม่ให้เห็นคนอื่น เห็นคนอื่นเป็นเท็จ ถ้าเห็นตัวเองของจริง

    ผลอย่างที่สองคือลูกสอบได้ที่หนึ่งสามปีรวด จนจบ ม.๖ และสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของรัฐดิฉันเชื่อว่าเป็นเพราะอานิสงส์แห่งกรรมฐานที่ทั้งลูกและแม่ปฏิบัติ เมื่อยามขัดสนก็อธิษฐานจิต ญาติพี่น้องก็พากันให้ความช่วยเหลือ พี่ชายกับหลานสาวให้สตางค์ค่าเสื้อผ้า ๔,๐๐๐ บาท ทั้งที่เคยคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้เห็นเงินจากพี่ชาย ปู่กับย่าให้ค่าเทอม ยังมีเพื่อนอีกหลายคนถามว่าเงินพอไหม จะช่วย เรื่องลูกจึงจบด้วยดี

    ดิฉันเคยเขียนจดหมายกราบเรียนหลวงพ่อว่าอยากเปิดร้าน หลวงพ่อตอบว่าไม่เห็นด้วยและไม่อนุญาตเพราะวิบากกรรมกำลังมาถึง ให้ทำกรรมฐานใช้หนี้กรรมให้เบาบางก่อน แล้วหลวงพ่อจะแผ่เมตตาให้เปิดร้านและร่ำรวยในที่สุด ส่วนเรื่องร้านเสื้อรอมาสี่ปี ในสามปีนี้หลังออกจากกรรมฐานอธิษฐานเสมอว่า ขอเจอผู้อุปถัมภ์ค้ำชูในเร็ววัน

    ๑๐-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๑ เพียง ๑๐ วัน ได้เจอผู้มีพระคุณ ซึ่งบอกให้ยืมเงินลงทุนเปิดร้าน โดยดิฉันไม่ได้เอ่ยปาก เพราะผู้มีพระคุณได้กรรมฐานขั้นสูงบ อ่านจิตดิฉันออกตลอดเวลา จึงเอ่ยปากว่าให้ยืม ไม่กลัวดิฉันโกงเพราะดูจิตแล้ว ถูกฝึกจากวัดอัมพวัน เป็นลูกศิษย์วัดอัมพวัน เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ

    ดิฉันสำนึกในบุญคุณหลวงพ่อตลอดเวลา จากคนที่มืดมนไม่มีทางออก เมื่อหันหน้าเข้ามาพึ่งใบบุญของหลวงพ่อ จนมีวันที่ฟ้าใส เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ๘ ปี กว่าท่านเจ้ากรรมนายเวรจะอภัย ตลอดเวลาพบแต่ความยากแค้น อดอยากก็เจอแล้ว อยู่ในกรรมฐานเจอสุข อยู่นอกกรรมฐานมีแต่ทุกข์ สุขนอกสุขในหาไม่เจอ แต่พอเปลี่ยนนิสัย ตายเป็นตาย ถ้าไม่ทำกรรมฐานก่อนจะไม่ทำงานใดก่อน ตื่นเช้า มีวิริยะอดทนสม่ำเสมอทุกวันจนถึงเวลานี้ จึงได้รับผลจากกรรมฐานที่ทำไว้ ๘ ปี เมื่อบุญนั้นส่งแล้วต้องไปอ่านคำกลอนที่ติดไว้ที่ศาลาหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ข้างโบสถ์วัดอัมพวัน “…บุญนั้นมาถึงแล้ว ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่” ไปวัดทีไรก็ต้องไปอ่านท่อนนี้

    ทางด้านครอบครัวก็เป็นไปอย่างที่หลวงพ่อพูดว่า “แม่ดีคนเดียว แม่เป็นแม่แบบแม่แผน ลูกผัวดีหมด” ใครอ่านหนังสือหลวงพ่อต้องเจอคำว่า “แม่แบบแม่แผน” วันนี้ดิฉันรู้ค่า ลูกเป็นคนดี สามีซื่อสัตย์ ครอบครัวสามัคคี

    มงคลบารมีทั้งหลายที่เกิดจากการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนาของดิฉัน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดิฉันขอน้อมถวายแด่หลวงพ่อจรัญ และขอพรศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อให้ดลบันดาลให้ลูกและครอบครัวพร้อมมิตรสหาย มีชีวิตที่ถูกต้องตามพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาด้วยเทอญ

สุทสฺสํ วชฺชมญฺเญสํ
อตฺตโน ปน ทุทฺทสํ

สิ่งทีเห็นได้ง่าย คือ ข้อบกพร่องของผู้อื่น
สิ่งที่เห็นได้ยาก คือ ข้อบกพร่องของตนเอง

วรวรรณ พลายงาม
๑๖/๑๐๕ คอนโดกัญญาเฮาส์ ชั้น ๓ ตึก A
สำโรงเหนือ ซ.แบริ่ง ๓๔ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

 

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›