ก๕/๔๐ สปช. กับวัดอัมพวัน

ประภัสร์ แสงดา

 

    สปช. ย่อมาจากสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนสังกัด สปช. ก็คือโรงเรียนประชาบาลในสมัยก่อน ๑ ตุลาคม ๒๕๒๓ และโรงเรียนอนุบาลทั้งอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ นับรวมกันได้ ๓๑,๓๙๔ โรงเรียน มีครูและบุคลากรประมาณ ๓.๔ แสนคน มีหน้าที่สำคัญในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ ซึ่งมีนักเรียนในระบบประมาณ ๖.๗๒ ล้านคน โดยมุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐานและให้สามารถคงสภาพการอ่านออกเขียนได้คิดคำนวณได้ มีความสามารถประกอบอาชีพตามควรแก่วัย ดำรงตนเป็นพลเมืองดีในระบอกการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

    อย่างไรก็ดีมักจะได้พบเห็นข่าวทางสื่อมวลชนอยู่เสมอเกี่ยวกับการฆ่าประทุษร้ายต่อร่างกายและทรัพย์ ข่มขืนเด็กแล้วฆ่า ฆ่าตัวตาย ผู้มีหน้าที่โกงกิน ซึ่งเป็นเครื่องชี้อย่างหนึ่งว่าคนบางคนบางกลุ่มในสังคมกำลังเครียดหาทางออกไม่ได้ ไม่มีภูมิธรรมะมาคุ้มกัน ผลคือสังคมเดือนร้อน คุกตะรางเจริญ ดังนั้นการให้ภูมิธรรมะคุ้มกันตั้งแต่เด็กที่กำลังอยู่ในระบบโรงเรียนน่าจะเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี สังคมจะได้อยู่อย่างมีความสุข นั่นคือจะต้องพัฒนาในด้านคุณธรรมของนักเรียนให้สูงขึ้นนั่นเอง

    แนวความคิดดังกล่าวนั้นได้มีอยู่ในหัวใจของอาจารย์นิรันดร์ บรรดาศักดิ์ มานานแล้ว เมื่อท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการกองพัฒนาบุคคล สปช. ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ช่วยทำงานเรื่องนี้ให้สำเร็จ โดยท่านเล็งที่จะพัฒนาครูเป็นเป้าหมายแรก เพราะครูเหมือนแม่เหล็กที่จะเหนี่ยวนำลูกศิษย์ให้เหมือนหรือคล้ายครูได้ โดยเฉพาะการพัฒนาในเรื่องคุณธรรมนั้นจะต้องเริ่มที่การพัฒนาใจก่อน เมื่อใจคิดถูกเป็นสัมมาทิฐิ ก็คิดที่จะประกอบแต่กรรมดี ไม่อยากทำความชั่ว การพัฒนาใจโดยการปฏิบัติธรรมะก็เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นผลเร็ว เพราะธรรมะปฏิบัตินั้นเป็นทางที่จะทำให้ใจสงบเยือกเย็นเป็นสุข ยอมรับในแบบอย่างที่ดีได้ง่าย

    ในระยะที่ท่านกำลังดำริที่จะทำในเรื่องดังกล่าว (ต้นปี พ.ศ.๒๕๓๓) พอดีได้รับคำแนะนำให้รู้จักกับคุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย ซึ่งอาจารย์เสงี่ยม อัมภาราม ผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัดแพร่ เป็นผู้แนะนำเพราะอาจารย์เสงี่ยมเคยปฏิบัติธรรมกับคุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย และได้นำไปใช้กับผู้ใต้บังคับบัญชาได้ผลดีมาแล้ว ทั้งได้ทราบว่าคุณแม่มีประวัติการให้การอบรมวิปัสสนากรรมฐานมากว่า ๔๕ ปี ทั้งในและต่างประเทศ มีลูกศิษย์เป็นแสนๆ คน หลักสูตรของคุณแม่ใช้เวลาเพียง ๗ วัน ซึ่งไม่นาน ขณะนั้นยังได้รับความสนใจจากอาจารย์เมือง-ชัย พาเจริญศักดิ์ ซึ่งเป็นศึกษานิเทศก์ สปช. ช่วยสนับสนุนให้มีการดำเนินการ จนกระทั่งได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการจากท่านเลขาธิการ สปช. ในขณะนั้นคืออาจารย์สมชัย วุฑฒิปรีชา

    เมื่อการดำเนินการได้รับการเปิดไฟเขียว ผู้เขียนได้รับมอบหมายให้ดำเนินการโครงการนี้ซึ่งยังไม่เคยทราบว่าการอบรมของคุณแม่สิริ กรินชัย เป็นอย่างไร จึงอาสาสมัครไปเข้ารับการอบรมครั้งแรกที่ หัวหิน จ.ประจวบฯ ยอมรับว่าวิธีการสอนของคุณแม่เป็นหลักสูตรสำเร็จรูป เกิดผลดีต่อผู้ปฏิบัติมาก ผู้เขียนเองสนใจธรรมะปฏิบัติมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ยังปฏิบัติไม่ได้ผลมาก แต่พอได้มาเข้าปฏิบัติกับคุณแม่ เหมือนกับเป็นการสรุปบทเรียนที่เรียนมายาวนานให้เข้าใจ

    ผู้เขียนมีความมั่นใจตั้งแต่นั้นมาว่าคุณแม่นี่แหละจะเป็นที่พึ่งของครูต่อไป แต่ก็มีปัญหาอีกว่าจะจัดอบรมที่ไหนดีก็ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์เสงี่ยม อัมภาราม ว่าวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นสถานที่เหมาะสม และก็เป็นดั่งที่พูดจริงๆ ที่วัดมีศาลาปฏิบัติธรรม ศาลาพัก ศาลาริมน้ำ ห้องน้ำ สะดวกสบายทุกอย่าง เมื่อ สปช. ได้ไปกราบขอความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระภาวนาวิสุทธิคุณ ก็ได้รับความกรุณาจากพระคุณท่านด้วยดี เอื้ออำนวยความสะดวกทุกอย่าง เวลาจัดฝึกอบรมก็จัดคนตลอดจนพระเณร มาให้การช่วยเหลือในด้านจัดที่พักอาหารให้ตลอดงาน นอกจากนี้หลวงพ่อยังได้เทศน์สอนผู้ปฏิบัติ (ลูกโยคี) โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเจริญสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อได้ให้หลักและแนวทางการปฏิบัติจับใจผู้ฟังมาก เมื่อกลับไปแล้วต่างก็ปรารภถึงหลวงพ่ออยู่บ่อยๆ

    สปช. ลงมือจัดรุ่นแรกเมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ ซึ่งสำเร็จลงด้วยดี ผู้เข้ารับการอบรมต่างได้ดื่มด่ำรสพระธรรมอย่างลึกซึ้งอันเป็นผลให้มีการจัดในรุ่นต่อๆ มา จนถึงขณะนี้รวม ๕ รุ่นแล้ว มีผู้เข้ารับการอบรมรวม ๒,๐๐๐ คน โดยได้ให้ผู้บริหาร เช่น ผอ.ปจ. ผช.ผอ.ปจ. ผอ.โรงเรียน ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ครูผู้สอนเข้าอบรมและยังมีประชาชนให้ความสนใจร่วมอบรมด้วยอีกส่วนหนึ่ง ผลสำเร็จครั้งนี้เกิดจากหลวงพ่อจรัญ และคุณแม่สิริ กรินชัย โดยแท้ หากไม่ได้ความเมตตาจากทั้งสองท่าน การอบรมอย่างนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย

    ด้วยสายสัมพันธ์ดังกล่าว สปช.กับวัดอัมพวัน คงจะอยู่คู่กันทำความดีให้กับสังคมต่อไปนานเท่านาน

 

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›