๑๙/๒๔ อานิสงส์พระกรรมฐานและบารมีของหลวงพ่อจรัญ

บุญนาค พุ่มโพธิสุวรรณ

    ข้าพเจ้าเป็นชาวโคราช ปัจจุบันอายุ ๗๖ ปีเศษ ข้าพเจ้าและครอบครัวได้มาฝึกพระกรรมฐานที่ วัดอัมพวันครั้งแรก เมื่อเดือน มีนาคม ๒๕๓๖ โดยมีแม่ชีซูง้อเป็นครูสอนพระกรรมฐานและเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติร่วมกับแม่ชีสมคิด แม่ชีซูง้อท่านสอนกรรมฐานให้ช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วปล่อยให้ปฏิบัติ ข้าพเจ้าพยายามทำก็ทำไม่ได้ เพราะแม่ชีซูง้อท่านพูดภาษาไทยไม่ชัด ข้าพเจ้าได้พยายามมาปฏิบัติหลายครั้ง แต่ก็ยังทำไม่ได้อยู่นั่นเอง รู้สึกว่ายากมาก หรือจะเป็นเพราะเวรกรรมสิ่งใดมาขัดขวาง จนรู้สึกท้อถอยไม่อยากจะทำต่อไป

    วันหนึ่งหลวงพ่อจรัญท่านลงมาเทศน์ให้พระกรรมฐานแก่สานุศิษย์ หลวงพ่อได้กล่าวว่า พระกรรมฐานเป็นของมีค่า ละเอียดอ่อน จะต้องรักษาไว้ให้ดี ต้องหมั่นฝึกหมั่นทำ กลับไปที่บ้านก็ต้องทำทุกวัน แต่น่าเสียดายและเสียใจ บางคนไม่มีความอดทน กลับเห็นว่าเป็นของยากกลับไปแล้วก็ละทิ้งไม่ทำไม่ปฏิบัติ จึงเหมือนกับโอ่งน้ำก้นรั่ว ใส่น้ำไว้เท่าไรก็เก็บน้ำไม่อยู่ รั่วทิ้งเสียหมด น่าเสียดายเสียเวลาเปล่า ๆ บุคคลเช่นนั้นจะเอาดีไม่ได้ หลวงพ่อกล่าวเสร็จแล้วท่านก็มองมาที่ข้าพเจ้า หลวงพ่อท่านคงรู้ว่า ข้าพเจ้ารับพระกรรมฐานไปแล้วเมื่อทำไม่ได้ก็หยุด ไม่พยายามทำต่อ จึงเปรียบเสมือนกับโอ่งน้ำก้นรั่ว คำสอนของหลวงพ่อครั้งนี้ช่วยบันดาลใจให้ข้าพเจ้ามีความมานะ พยายามปฏิบัติพระกรรมฐานมาจนทุกวันนี้ เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกวันทั้งตอนเช้าและตอนเย็น
ประสบการณ์และความมหัศจรรย์ที่ข้าพเจ้าได้รับจากวัดอัมพวัน

    ๑) ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระกรรมฐานที่วัดอัมพวันหลายครั้ง แต่ยังทำได้ไม่ดีนัก วันหนึ่งข้าพเจ้านั่งฝึกพระกรรมฐานที่สวนป่าวัดอัมพวัน ก็ปรากฏว่าบุตรสาวของข้าพเจ้าซึ่งเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุ เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๓๕ ได้มานั่งอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า แต่งกายในชุดวันที่ประสบอุบัติเหตุ เขานั่งอยู่นานมาก ประมาณ ๑๐-๑๕ นาที แต่นั่งอยู่ประมาณ ๑๐ นาที ก็จะเปลี่ยนภาพจากผู้ใหญ่อายุ ๒๒ ปี มาเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.๒ นั่งอยู่อีกประมาณ ๕ นาที แล้วจึงหายไป ขณะที่เห็นภาพของบุตรสาวปรากฏอยู่นั้น ข้าพเจ้าคิดอะไรไม่ออกและทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้มองภาพของบุตรสาวอย่างเดียว เมื่อเสร็จกรรมฐานแล้วกลับไปถึงบ้านจึงได้จดหมายมากราบเรียนถามหลวงพ่อ ซึ่งหลวงพ่อท่านได้เมตตาตอบจดหมายลงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๓๗ ว่า “หนูอัมพรอยู่ที่ไหนต้องการอะไร ไม่ต้องคำนึงถึง ขอให้โยมสวดพุทธคุณพาหุงมหากาและปฏิบัติกรรมฐาน แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร และลูกสาวอัมพร แค่นี้ลูกสาวอัมพรก็ได้รับบุญกุศลอย่างเต็มที่”

    ๒) เดือนกันยายน ๒๕๔๐ เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. ขณะนั่งกรรมฐานอยู่ที่ระเบียงหน้าอาคารชั้น ๒ ตุ๊กแกตัวหนึ่งอยู่บนต้นไม้สูงใกล้ ๆ กับกุฏิของแม่ใหญ่ ร้องส่งเสียงดัง ก๊อกก๊อก ก๊อกก๊อก พุท…โธ – พุท…โธ – พุท…โธ ซึ่งเสียงพุทโธ พุทโธ ดังชัดเจนเหมือนกับเสียงมนุษย์ ซึ่งไพเราะมาก เนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมามีฝนตกและอากาศชื้นอยู่ด้วย เมื่อถึงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน ขณะเดินเข้าโรงอาหาร คุณมานพ สิงห์วิเศษ ได้ถามข้าพเจ้าว่าเมื่อสักครู่ได้ยินอะไรหรือเปล่า ข้าพเจ้าจึงตอบไปว่า พุทโธ ใช่ไหม คุณมานพ จึงพูดต่อไปว่า “เสียงก้องกังวานไพเราะมาก นับว่าเป็นบุญกุศลอย่างยิ่งที่ได้ยินเสียงทิพย์เสียงสวรรค์เช่นนี้”

    ๓) เดือนกันยายน ๒๕๔๓ ข้าพเจ้าเดินทางไปงานศพญาติที่อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ บนเส้นทางแคบ ๆ ซึ่งใช้สำหรับติดต่อระหว่างหมู่บ้าน ควายตัวหนึ่งเขาผูกเชือกไว้แต่ไม่ปรากฏผู้เป็นเจ้าของ ควายตัวนั้นเดินข้ามทางไปยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง และมีเชือกตรึงขวางเส้นทางอยู่ ควายชูคอและแหงนหน้าขึ้นทำตาถมึงทึง เหมือนโกรธจัด ข้าพเจ้าพยายามมองหาเจ้าของก็ไม่ปรากฏมีผู้คนอยู่ใกล้ ๆ นั้นเลย ข้าพเจ้าคิดไม่ออกว่าทำอย่างไรจึงจะเดินทางต่อไปได้ ทันใดนั้นแม่บ้านของข้าพเจ้าซึ่งนั่งอยู่ในรถได้ยกมือขึ้นพนมพร้อมกับกล่าวว่า “หลวงพ่อจรัญเจ้าขา มาช่วยลูกด้วยเถิด” พอกล่าวจบควายตัวนั้นก็ก้มหน้าลง และเดินกลับไปยังจุดที่เจ้าของผูกไว้ ในลักษณะเหมือนมีคนมาจูงเขาไป ข้าพเจ้าพูดกับแม่บ้านว่าเพราะบารมีของหลวงพ่อจรัญจริง ๆ ควายจึงเปิดทางให้เราเดินทางต่อไปได้

    ๔) เดือนมกราคม ๒๕๔๕ ข้าพเจ้าจะเดินทางข้ามไปฝั่งพม่า ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย บังเอิญวันนั้นพอดีที่พม่าเขาประกาศปิดพรมแดน ห้ามประชาชนเดินทางเข้าและออก ข้าพเจ้าจึงต้องย้อนกลับและแวะไปชมดอยแม่ฟ้าหลวง และก็ต่อไปชมพระธาตุดอยตุง เมื่อจะเดินทางกลับลงมา ปรากฏว่ารถยนต์สตาร์ทเครื่องไม่ติด ขอร้องให้ผู้อื่นช่วยแก้ไขหลายคนก็ไม่สำเร็จ ขณะนั้นเวลาจวนมืดอยู่แล้ว รถคันอื่นเขาเดินทางกลับกันหมด เหลืออีกคันสุดท้ายกำลังจะกลับ ข้าพเจ้าจึงขออาศัยนั่งออกมาด้วย เพื่อจะไปลงที่ป้อมตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะนั่งรถออกมาได้ประมาณ ๓ ก.ม. พนักงานขับรถเขาพูดว่า รถคันนั้นตามมาได้แล้ว และเขาก็หยุดให้ข้าพเจ้าลงเมื่อขึ้นนั่งในรถข้าพเจ้าได้ถามกับแม่บ้านว่า ทำอย่างไรเครื่องยนต์จึงติดและเดินทางลงมาได้ แม่บ้านเขาบอกว่าขณะที่นั่งอยู่ในความมืดก็คิดถึงหลวงพ่อจรัญ “จึงยกมือขึ้นพนมขอให้หลวงพ่อจรัญมาช่วยลูกด้วย ขอให้เครื่องยนต์ติดเถิด” พอกล่าวเสร็จบุตรชายของข้าพเจ้าสตาร์ทเครื่องยนต์เพียงครั้งเดียว เครื่องยนต์ก็ติดเป็นปกติมาจนทุกวันนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นอภินิหารของหลวงพ่อจรัญจริง ๆ ถ้าหลวงพ่อจรัญท่านไม่เมตตาช่วยเหลือ ก็ไม่ทราบว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวของข้าพเจ้า เพราะที่พระธาตุดอยตุงนั้นเป็นยอดเขาสูง และไม่มีผู้คนพักอาศัยอยู่ในเขตนั้นเลย จะมีก็แต่พระเจดีย์กับพระอุโบสถเท่านั้น

    ๕) วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๗ ข้าพเจ้าและครอบครัวเดินทางไปกราบนมัสการและร่วมบำเพ็ญบุญวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อจรัญ ที่วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี รถยนต์วิ่งออกจากโคราชมาได้ประมาณ ๔๐ ก.ม. ปรากฏมีควันขึ้นที่ช่องแอร์ และอีกไม่นานแอร์ก็ดัง จะแวะเข้าร้านซ่อมก็กลัวว่าจะไม่ทันพิธีของหลวงพ่อ จึงปิดแอร์และเปิดกระจกรถวิ่งมาจนถึงวัดอัมพวัน แต่เที่ยวกลับพอขับรถออกมาถึงถนนสายเอเชียลองเปิดแอร์ดู ปรากฏว่าแอร์ติดเป็นปกติจนกระทั่งทุกวันนี้ “เหตุการณ์ครั้งนี้ก็คงเป็นเพราะบุญบารมีของหลวงพ่อจรัญ ท่านแผ่เมตตาให้กับลูกศิษย์ทุกคนให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ประสบแต่ความสุขความสำเร็จ ปราศจากภัยพิบัติและอุปสรรค์ทั้งปวง”

    ข้าพเจ้าขอกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ด้วยความเคารพบูชาอย่างสูงยิ่ง ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดดลบันดาลให้หลวงพ่อจรัญมีอายุยั่งยืนนาน สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยทั้งปวงเทอญ

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›