๑๙/๓๔ เสียสัจจะ ทำกรรมฐานไม่ต่อเนื่อง ธุรกิจไม่ราบรื่น ไม่ประสบความสำเร็จ

เสาวลักษณ์ สิทธิวงศ์

    ข้าพเจ้านางเสาวลักษณ์ สิทธิวงศ์ เป็นคนจังหวัดชัยภูมิ ข้าพเจ้าเป็นคนโชคดีมากที่พ่อแม่เป็น พระอรหันต์ของลูก ๆ ท่านทั้งสองเป็นพระผู้ให้ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกต้องการ ห่วงหาอาทร ห่วงใย ทำทุกอย่างเพื่อลูก ๆ ข้าพเจ้าภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกสาวของท่านทั้งสอง ถ้าข้าพเจ้าเลือกเกิดได้ก็จะขอไปเกิดกับท่านทั้งสองทุก ๆ ชาติ ท่านทั้งสองเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่ของท่านเอง โดยเฉพาะแม่ของข้าพเจ้า

    สมัยข้าพเจ้ายังเด็ก เวลายายมาจากอุบล ท่านยังไม่ลงจากสามล้อ แม่ก็ปรี่เข้าไปกราบเท้ายาย เป็นภาพที่ข้าพเจ้าประทับใจในการปฏิบัติของแม่ที่มีต่อยายมาก นี่คือแบบอย่างที่ดีมาก ๆ เมื่อข้าพเจ้าไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด ข้าพเจ้าก็จะกราบเท้าท่านทั้งสองทั้งไปและกลับ และยังสอนให้ลูก ๆ ทำตามทุกคนด้วยเช่นเดียวกัน เวลาไปเยี่ยมแม่สามีข้าพเจ้าก็ปฏิบัติเหมือนพ่อแม่ของข้าพเจ้าด้วย สามีเห็นข้าพเจ้าทำตัวเช่นนี้ก็ทำตามบ้าง คือ กราบเท้าพ่อแม่ข้าพเจ้าด้วย มันเป็นภาพที่ประทับใจมากมิรู้ลืมตราบเท่าทุกวันนี้

    สมัยที่ข้าพเจ้ายังไม่ได้แต่งงาน เคยคิดว่าถ้าจะมีคู่ครอง ต้องหล่อ รวย เป็นคนดี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ตอนนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมถึงปรารถนาอย่างนั้น และข้าพเจ้าก็ได้สมหวังในตัวสามี ยกเว้นยังไม่รวย แค่นี้ก็เหมือนหรือยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งแล้ว

    ข้าพเจ้ามีบุตรชาย ๒ คน บุตรหญิง ๑ คน บุตรทั้งสามเป็นคนดีว่านอนสอนง่าย บุตรคนโตเคยบวชที่ วัดอัมพวัน ๑ พรรษา เมื่อปีที่แล้ว พ.ศ.๒๕๔๖

    ขอเท้าความเมื่อ ๑๐ กว่าปีที่ข้าพเจ้า สามี ลูก ๆ ได้มีโอกาสมาทำบุญที่วัดอัมพวัน ข้าพเจ้าทำบุญแค่ ๑๐๐ บาท หลังจากกลับจากวัดอัมพวันก็มีรายได้ตามมาเป็นหมื่น เป็นเรื่องที่แปลกมาก อานิสงส์มากมาย

    หลังจากนั้นไม่นานนักข้าพเจ้าได้ชวนแม่และน้องสาวคนเล็กไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันคนละ ๗ วัน แต่พออยู่วัดจริง ๆ ได้แค่ ๕ วัน เพราะวันที่ ๕ นั้นน้องชายไปจังหวัดทางภาคเหนือแล้วแวะกลับมารับ เกิดความเกรงใจไม่กล้าให้เขารออีก ๒ วัน ก็เลยชวนกันกลับ นี่คือเสียสัจจะครั้งที่ ๑

    พอข้าพเจ้ากลับบ้านสามีก็พาแม่และผู้มีพระคุณไปปฏิบัติธรรม ส่วนข้าพเจ้านั้นก็แจกหนังสือสวดมนต์ และชักชวนผู้อำนวยการโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งและภรรยาของท่าน ผู้จัดการธนาคาร เจ้าของธุรกิจร้านถ่ายรูป คนรู้จักกันที่มีความทุกข์ให้ไปปฏิบัติธรรม โดยข้าพเจ้าและสามีออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาส่ง และบางคนก็มากันเอง หากใครเกรงใจจะเอาเงินช่วยค่าน้ำมันรถ ข้าพเจ้าจะบอกเขาว่า ถ้าอยากตอบแทนก็แผ่เมตตาให้ข้าพเจ้าและครอบครัวก็แล้วกัน เงินไม่ขอรับ

    อยู่มาวันหนึ่ง น้าสาวของข้าพเจ้าได้โทรศัพท์มาบอกว่า ไม่รู้ว่าแม่ของข้าพเจ้าเป็นอะไรได้แต่นอน จะหนักจะเบาก็ต้องนอนอย่างนั้น ข้าพเจ้าก็รีบเดินทางไปทันทีโดยไม่ลืมรูปถ่ายของหลวงพ่อจรัญไปด้วย พอไปถึงก็เอารูปถ่ายของหลวงพ่อวางไว้บนโต๊ะ โดยให้แม่หันหัวมาทางรูปของหลวงพ่อจรัญ ตอนกลางคืนคนอื่นขึ้นนอนหมดแล้ว ข้าพเจ้าก็สวดมนต์ ขอให้หลวงพ่อจรัญช่วยด้วย เมื่อเริ่มนั่งสมาธิได้ขณะหนึ่ง ก็มีเสียงเหมือนใครกำก้อนกรวดเล็ก ๆ แล้วซัดใส่ฝาบ้านใกล้ ๆ กับที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ กำแล้วซัด ๆ อยู่ตลอดเวลา จนข้าพเจ้าเห็นว่านั่งสมาธินานพอสมควรแก่เวลาแล้วเลยแผ่เมตตาแผ่ส่วนกุศลไป หลังจากนั้นเสียงก็เงียบลง พอออกจากสมาธิ เกิดความกลัวเลยนอนห่มผ้าคลุมโปง

    ตื่นเช้ามาเหมือนปาฏิหาริย์ แม่ของข้าพเจ้านอนอย่างเดียวมาหลายวัน กลับลุกขึ้นมาได้ เดินเหินเหมือนเดิม

    ข้าพเจ้าเคยอ่านหนังสือพบว่า หากใครใส่บาตรทุกวันติดต่อกัน ๓ เดือน ชีวิตจะดีขึ้น เวลาเดือดร้อนจะมีคนช่วยเหลือ ก็เลยชวนสามีและลูก ๆ ทั้ง ๓ ลุกขึ้นมาแต่เช้าใส่บาตร แต่พอใส่บาตรได้ไม่นาน พร้อมกับทำกรรมฐานไปด้วยกับสามี การเงินก็ยิ่งมีปัญหาไม่พอใช้จ่าย ก็เลยเลิกใส่บาตร เลิกปฏิบัติธรรม ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พอเดือดร้อนก็เลยไปยืมเงินพระปฏิบัติรูปหนึ่งมา เพราะคิดว่าถ้ายืมคนธรรมดาเดี๋ยวเขาเอาข้าพเจ้าไปนินทา เลยยืมพระดีกว่า ท่านคงไม่เอาข้าพเจ้าไปพูดแน่นอน ท่านก็แสนดีมีเมตตาให้ยืมทันที พอถึงเวลาจ่ายคืนมีเหตุจำเป็นอยู่เรื่อยเลยไม่ได้คืนสักที อันนี้เสียสัจจะเป็นครั้งที่ ๒

    หลังจากเสียสัจจะครั้งที่ ๒ เป็นต้นมา ทำธุรกิจการค้าอะไรถ้ามีการยืมเงินมาเกี่ยวข้อง ถึงเวลาจ่ายเขาเป็นอันต้องเสียสัจจะ เลื่อนวันออกไปไม่ตรงตามวัน จนกระทั่งไม่มีเงินจะให้เขา จากเป็นรักษาสัจจะก็กลายเป็นคนเสียสัจจะ ทั้งที่ไม่มีนิสัยเช่นนั้นเลย วันไหนนัดจ่ายเงินถึงวันนั้นจะขายของไม่ได้ ไม่พอจ่าย ข้าพเจ้าก็ต้องเสียชื่อเสียง จนกระทั่งบ้านที่ผ่อนไว้ไม่มีเงินผ่อนก็ถูกยึด ทรัพย์สินที่อยู่ในบ้าน ข้าพเจ้าก็บอกผู้มีพระคุณที่เขาเคยให้เงินกู้มาใช้ ไปเอาข้าวของในบ้านที่มีออกมาให้หมด

    ไม่ได้มีนิสัยโกงคน แต่หาเงินให้เขาไม่ได้ แทบจะฆ่าตัวตาย แต่หลวงพ่อจรัญเขียนในหนังสือธรรมะว่าหากใครฆ่าตัวตายจะต้องฆ่าตัวตายถึง ๕๐๐ ชาติ ก็เลยกลัว

    เวลาเดือดร้อนเรื่องเงินเมื่อไร ก็ได้พ่อแม่น้อง ๆ คอยช่วยเหลือ แต่เป็นระยะเวลาไม่กี่วัน จนเขาเอือมระอาแล้ว ยกเว้นพ่อแม่เท่านั้นที่มีจิตใจประเสริฐ ยังคงช่วยเหลืออยู่เสมอ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าได้ทำกรรมไว้กับพ่อแม่มาก ไม่มีเงินให้ท่านทั้งสองยังต้องมาเบียดเบียนท่านอีก

    ปี พ.ศ.๒๕๔๖ บุตรชายของข้าพเจ้าได้บวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ข้าพเจ้ารู้สึกปลาบปลื้มใจมาก บุตรชายบวชได้ ๑ วัน วันที่ ๒ ข้าพเจ้าและสามีได้มาปฏิบัติธรรมคนละ ๕ วัน ก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง กลับจากปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าและสามีก็เอาสมบัติชิ้นสุดท้ายในการประกอบอาชีพที่หวงแหน แต่ต้องตัดใจไปขายเพื่อเอาเงินมาลงทุน เขาให้เงินน้อยนิดเดียว น้ำตาคลอทั้งคู่ เสียใจมาก เสียดายมาก ถ้าคิดจะซื้อใหม่ก็อีกหลายเท่าตัว แล้วก็เอาเงินก้อนสุดท้ายที่น้อยนิดไปลงทุนธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ พอจะเริ่มดีขึ้นก็ไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม ปฏิบัติบ้างไม่ปฏิบัติบ้าง พอลูกสึกจากพระ ยอดขายก็ตก จิตก็ตก ชีวิตก็เป็นเหมือนเดิมอีก สรุปแล้ว ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมาชีวิตมีแต่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ประสบแต่ปัญหาขาดทุน ถ้าไม่ขาดทุนก็เป็นหนี้เขา รายจ่ายมากกว่ารายรับเป็นสิ่งที่แน่นอน แต่รายรับไม่แน่นอน ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะต้องใช้กรรมไปอีกนานเท่าไหร่

    วันที่ ๑๔ ส.ค.๒๕๔๗ ก่อนวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อจรัญ ๑ วัน ข้าพเจ้าอธิษฐานจิตถึงหลวงพ่อ ขอให้ข้าพเจ้าขายของดีด้วยเถิด เพราะไม่มีเงินไปถวายหลวงพ่อเลยปีนี้ ถ้าหลวงพ่อไม่ช่วยคงไม่มีโอกาสได้ไปทำบุญแน่ เลยสวดอิติปิโสไปเรื่อย ๆ เรียกหลวงพ่อช่วยลูกด้วยอยู่บ่อย ๆ ทั้งวัน จนถึงเวลาประมาณ ๕ โมงเย็น เป็นที่น่าอัศจรรย์ ขายของดีผิดปกติ ไม่น่าขายได้ก็ขายได้ ลูกค้าล้วนแล้วแต่ซื้อง่าย ๆ ทั้งนั้น ข้าพเจ้าขายดีอยู่เจ้าเดียว ร้านอื่นบ่นว่าขายไม่ดี ข้าพเจ้าคิดว่าได้รับการแผ่เมตตาจากหลวงพ่อทั้งวัน ปลื้มปีติมาก พอนับเงินเยอะพอสมควรก็เลยรีบเดินทางไปทำบุญทันที ข้าพเจ้าคิดว่าบุญบารมีของหลวงพ่อสูงส่งยิ่งนัก แผ่ออกมากว้างใหญ่ไพศาล ลูกศิษย์ของท่านคงได้รับการแผ่เมตตาโดยทั่วหน้ากัน ให้เห็นเป็นอัศจรรย์ สังเกตได้จากก่อนวันและหลังวันมาทำบุญวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อ ขายไม่ดีเท่านี้

    วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๗ ข้าพเจ้าเดินจงกรมจนสติบอกลำดับถึงเหตุการณ์ เมื่อปีทีแล้ว ๒๕๔๖ ตอนบุตรชายมาบวช ก็เลยร้องอ๋อ! เหตุนี้เองข้าพเจ้าทำกรรมฐานไม่สม่ำเสมอ ธุรกิจจึงลุ่ม ๆ ดอน ๆ ดีไม่ตลอดเลยต้องขาดทุนอีก ข้าพเจ้าไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ ตั้งใจปฏิบัติอย่างเต็มที่ และได้เดินจงกรม ๒ ชั่วโมง นั่ง ๒ ชั่วโมง ติดต่อกันรวดเดียว ๔ ชั่วโมง และยังปฏิบัติเช่นนี้ แต่ชั่วโมงน้อยลงปฏิบัติทั้งวันจนครบ ๗ วัน ๗ คืน

    ข้าพเจ้าออกจากวัดอัมพวันคราวนี้หลายคนชมข้าพเจ้าว่าเปลี่ยนไปมาก คือจากแววตาแข็งกร้าว เปลี่ยนเป็นเมตตาอ่อนโยน น้ำเสียงหยาบ ห้าว ก็เปลี่ยนไปเป็นน้ำเสียงที่น่าฟังกว่าเดิม และรู้จักตัวเองมากขึ้น มีสติมากขึ้น ใจเย็นมากขึ้น มีเหตุผลมากขึ้น

    พอกลับบ้าน ไปดูแลกิจการ ก็เลยขอให้หลวงพ่อแผ่เมตตาให้ข้าพเจ้าขายของได้ด้วยเถิด เพราะข้าพเจ้าอยากได้เงินค่าเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ และน้อง ๆ ที่ต่างจังหวัด เพื่อจะนำของดีที่ได้จากการเจริญกรรมฐานที่หลวงพ่อให้มา ไปเผยแพร่ต่ออีก จนขายของได้เงินค่าเดินทาง ข้าพเจ้า สามี ลูกทั้ง ๓ คน ก็เดินทางไปต่างจังหวัดทันที

    ข้าพเจ้ามีโอกาสตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ก็คราวนี้เอง เพราะท่านทั้งสองได้รับพร้อมกัน โดยพ่อที่ป่วยมานานหลายปี กรรมเก่าของท่านทำให้ท่านไม่อยากอนุโมทนาบุญ ไม่อยากแผ่เมตตา แต่พอข้าพเจ้าได้ไปปฏิบัติธรรม คราวนี้ ๗ วัน ๗ คืน และตั้งจิตอธิษฐานมานานแล้ว เพิ่งสัมฤทธิ์ผล แม่ของข้าพเจ้าก็กลับมาเดินจงกรม นั่งสมาธิ สวดมนต์อย่างมีสติอีกครั้ง และพ่อของข้าพเจ้าก็มีจิตใจในการอนุโมทนาบุญ ขออโหสิกรรม อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แผ่เมตตาได้ด้วยตนเอง เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วว่า ข้าพเจ้าดำเนินชีวิตมาด้วยความประมาท ขาดสติเลยทำให้ตัดสินใจในการทำธุรกิจผิดพลาด ขาดทุน ต้องมาเริ่มต้นใหม่ที่จุดศูนย์อีกครั้งหนึ่ง ต่อนี้ไปข้าพเจ้าจะพยายามฝืนสังขารร่างกายปฏิบัติธรรมทุกวันพร้อมกับสามี เพื่อต่อสู้กับชะตาชีวิตของข้าพเจ้า ไม่ให้ประวัติศาสตร์ชีวิตของข้าพเจ้าซ้ำรอยเดิม

    เมื่อก่อนข้าพเจ้าคิดน้อยใจที่หลวงพ่อไม่ยิ้ม แต่หลังจากปฏิบัติธรรมสม่ำเสมอทุกวัน สติบอกว่าหลวงพ่อรักคนที่ทำกรรมฐาน เหมือนกับคนเป็นพ่อเป็นแม่สอนลูกไม่ปฏิบัติตามก็ไม่อยากยิ้มหรือพูดกับลูก เพราะท่านมีคุณธรรมไม่ด่าว่าลูก ลูกไม่รักดีเอง ชีวิตจึงเป็นเช่นนี้

    ลูกขอกราบขมาลาโทษ ขอหลวงพ่อพระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ จงได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ถูกด้วยเถิด ในการคิดอกุศลกับท่าน ต่อจากนี้ไปลูกได้ของดีจากหลวงพ่อแล้ว จะคิดเงินก็ไหลนอง จะคิดทองก็ไหลมา สมความมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ ไม่ขาดสติต้องดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพราบรื่นแน่นอน

    ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกนี้ และอานิสงส์ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญไปตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ จงปกป้องคุ้มครองพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมสิงหบุราจารย์ จงมีอายุยืน มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ปราศจากภยันตราย ต่าง ๆ ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร และเป็นที่พึ่งแก่ศิษยานุศิษย์และได้มรรคผลนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ

 

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›