๑๗/๒ ผลกรรม

ปรียาภรณ์ ประภัศรานนท์

    ข้าพเจ้าชื่อ นางปรียาภรณ์ ประภัศรานนท์ ปัจจุบันอายุ ๔๘ ปี มีบุตรชาย ๑ คน อายุ ๒๔ ปี กำลังศึกษาอยู่ สามีรับราชการ ข้าพเจ้าเป็นคนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

    ข้าพเจ้าได้เข้ามาปฏิบัติธรรมครั้งแรกเมื่อวันเข้าพรรษาปี พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นเวลาเพียง ๔ วัน การมาปฏิบัติในครั้งนั้นข้าพเจ้าไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็มิได้ลดละความพยายาม ยังคงเวียนมาวัดอยู่หลายครั้ง บางครั้งก็ชวนเพื่อนหรือญาติพี่น้องมาเพื่อฟังคำสั่งสอนของหลวงพ่อ และได้นำหนังสือไปสวดมนต์ บทพุทธคุณ ธรรมคุณ และอิติปิโสเกินอายุ ๑ จบ เนื่องจากในช่วนนั้นข้าพเจ้ายังเป็นพนักงานรัฐวิสหกิจอยู่ จึงไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาวัดเพื่อปฏิบัติได้บ่อยๆ ปัจจุบันข้าพเจ้าได้ลาออกจากงานแล้วจึงมีเวลาที่จะมาปฏิบัติธรรมได้มาขึ้น นิสัยเดิมของข้าพเจ้าเป็นคนใจร้อน โกรธง่าย ไม่กลัวใคร ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ชอบดื่มสุรา เที่ยวเตร่ และเล่นการพนัน ไม่เคยเข้าใจเรื่องเวรกรรม

    ข้าพเจ้าเคยแต่งงานมาแล้ว ๑ ครั้ง มีบุตรชาย ๑ คน สามีของข้าพเจ้าเป็นพนักงานรัฐวิสหกิจเช่นเดียวกันกับข้าพเจ้ามีตำแหน่งหน้าที่การงานดี รู้จักประหยัด เป็นคนรักครอบครัว แม้ข้าพเจ้าทำผิดก็ให้อภัย แต่เหมือนมีกรรมบังตา ข้าพเจ้ากลับไม่ชอบไม่ถูกใจ มองว่าเค้าเป็นคนเห็นแก่ตัว ข้าพเจ้าชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อนและดื่มสุราเป็นประจำ จนทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักกับสามีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นคนมีครอบครัวอยูแล้ว ชอบดื่มสุรา เที่ยวเตร่ เล่นการพนัน และเจ้าชู้ แต่ข้าพเจ้ากลับมองว่าดี โดยมิได้เกรงกลัวต่อบาป มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าได้มาวัดพร้อมกับพี่พาณิชย์ พี่พาณิชย์ได้กราบเรียนหลวงพ่อว่าสามีของข้าพเจ้า เจ้าชู้มีภรรยาน้อยควรทำอย่าไรดี หลวงพ่อท่านหันมาทางข้าพเจ้า และกล่าวว่าก็เรามันไม่ดีเอง ถึงได้ไปเลือกเค้ามา ข้าพเจ้าก็รู้สึกเห็นจริงตามที่หลวงพ่อท่านกล่าว จึงตอบรับว่าเจ้าค่ะ จึงเริ่มได้คิดว่าการดื่มสุราและการทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด ตัดสินใจผิดๆ ขาดสติ โดยไม่คิดเกรงกลัวต่อบาป ไม่คิดว่าเวรกรรมนั้นมีจริงเป็นเรื่องผิด เมื่อได้มาปฏิบัติธรรม และได้ฟังคำสั่งสอนของหลวงพ่อในวันพระบ้าง จากเทปที่หลวงพ่อเทศน์บ้าง และจากหนังสือกฏแห่งกรรม จึงทำให้เข้าใจรับรู้ถึงผลกรรมมากขึ้น เมื่อทำไปแล้วก็ไม่สามารถจะเรียกกลับคืนมาได้อีก คนเราเมื่อทำกรรมใดไว้ก็ย่อมต้องได้รับผลของกรรมนั้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ปัจจุบันทำให้ข้าพเจ้าเลิกดื่มสุรา และเลิกเล่นการพนันโดยเด็ดขาด

    จากผลกรรมที่ทำมาทำให้ข้าพเจ้ามีความทุกข์ จนต้องหาทางดับทุกข์ที่เราเป็นผู้ก่อขึ้นเอง เมื่อมาอยู่กินกับสามีคนปัจจุบันได้ประมาณ ๘ ปี สามีก็เริ่มประพฤติตนแบบเดิมๆอีก ชอบออกเที่ยว เล่นการพนัน พูดจาโกหก ( ติดผู้หญิงใหม่ พร้อมติดยาบ้าควบคู่กัน) ไม่ค่อยกลับบ้าน โดยที่ก่อนหน้านี้ เมื่อมาอยู่กินกับข้าพเจ้า เค้าเริ่มรู้จักที่จะทำมาหากิน ช่วยกันสร้างฐานะ จนมีบ้านเป็นของตัวเอง ๑ หลัง มีรถยนต์ และมีที่ดินเพิ่มขึ้น ถึงจะพอมีพอกิน ก็ดูจะมีความสุข เมื่อสามีไปมีผู้หญิงคนใหม่ จนมีลูกด้วยกัน ก็ยังไม่ยอมที่จะไปจากชีวิตของข้าพเจ้า ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าทุกข์ใจมากขึ้น หาความสุขแทบไม่ได้ มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ จึงพยายามที่จะหาทางดับทุกข์ จนมีโอกาสได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ทำให้จิตใจที่เคยร้อน ก็เย็นลงได้บ้าง ถึงจะทำได้ไม่มากนักแต่ก็ยังดีกว่า ก่อนที่จะมาปฏิบัติธรรม

    ช่วงก่อนออกพรรษาปี ๒๕๔๓ สามีไม่เคยกลับมาบ้านเลย เนื่องจากขณะนั้นก็ยังติดยาบ้าและไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น ข้าพเจ้าก็คิดว่าคงจะจบกันได้แล้ว ไม่คิดอยากจะได้เค้าคืนมา แต่ก็อดเป็นห่วงเรื่องที่เค้าติดยาบ้าและยังเลิกไม่ได้ เวลาที่ข้าพเจ้าเข้าห้องพระเพื่อสวดมนต์ทุกวัน ก็จะขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอบารมีหลวงพ่อให้ช่วยแผ่เมตตาให้กับสามีของข้าพเจ้า หากสิ่งใดที่ลูกได้ปฏิบัติมานี้เป็นสิ่งที่ดีก็ขอให้สามีเลิกยาเสพติดได้ด้วยเถิด จนถึงวันออกพรรษาข้าพเจ้าได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันเป็นเวลา ๗ วัน ได้แผ่เมตตาให้กับสามี และขอบารมีหลวงพ่ออีกเช่นเคย เมื่อปฏิบัติครบ ๗ วัน ข้าพเจ้าเดินทางกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นสามีก็กลับเข้าบ้านเช่นกัน ก็เป็นเวลา ๑ เดือนพอดี ที่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นหน้าเค้าเลย เหมือนปาฏิหาริย์ สามีมาบอกกับข้าพเจ้าว่าเลิกยาบ้าได้แล้ว ข้าพเจ้าทำท่าทางไม่เชื่อ เค้าบอกว่าเลิกได้จริงๆ ข้าพเจ้าถามว่าเลิกได้ตั้งแต่เมื่อไร เค้าก็พูดโกหกว่าเลิกได้นานแล้ว ข้าพเจ้าจึงพูดว่ายอมรับความจริงไหมว่าเธอเพิ่งเลิกได้ก่อนที่จะมาพบฉันเพียง ๒-๓ วันนี้เอง เค้าก็ยอมรับว่าใช่ และเล่าถึงการที่เลิกได้ว่า ช่วงที่ข้าพเจ้าไปวัดเค้ากลับมาบ้านแต่ไม่พบข้าพเจ้า เนื่องจากปกติคนเราถ้าติดยาบ้า หากไม่ได้เสพก็จะรู้สึกปวดหัวทุรนทุรายมาก เวลานอนเหมือนมีอะไรหนักๆมาทับที่หน้าอก คล้ายมีสัญญาณมาเตือนว่า ถ้าขืนเสพต่อไปไม่รอดแน่ จึงรีบกลับบ้านมาตามหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมนั่นช่วยให้คนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือลูกเป็นคนดีได้ ปัจจุบันสามีเลิกยาบ้า และลูกของข้าพเจ้าก็เชื่อฟังไม่ค่อยเถียงเหมือนแต่ก่อน

    เรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมานี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ถึงแม้จะไม่ละเอียดเหมือนกับชีวิตจริง แต่ใครที่ประสบกับ เวรกรรมที่คล้ายคลึงกับข้าพเจ้าก็พอจะเป็นแนวทางให้ท่านได้นำไปปฏิบัติ อย่าได้ท้อแท้กับชีวิต ตั้งใจปฏิบัติธรรมและสวดมนต์ควบคู่กัน ท่านต้องตั้งใจทำจริงๆ แล้วท่านจะได้ พบกับสิ่งดีๆในชีวิตของท่าน ซึ่งท่านสามารถรู้ได้ด้วยตนเอง สำหรับท่านที่ปฏิบัติดีอยู่แล้ว หากท่านได้มาลองปฏิบัติธรรมดูท่านก็จะได้ดียิ่งขึ้นไปอีก จะได้ไม่เดินทางผิด การมีเงินมีทองมีทรัพย์สมบัติมากมาย นั่นเป็นเพียงความสุขทางกาย แต่ความสุขทางใจนั้นหาได้ยากมาก

    ข้าพเจ้าเองก็ต้องขอขอบคุณสามีของข้าพเจ้าที่ทำให้ข้าพเจ้าได้พบกับเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ถึงความทุกข์ รู้ถึงเวรกรรม ผลกรรมที่ได้กระทำมา จึงทำให้ข้าพเจ้าได้มาพบกับหลวงพ่อจรัญ ซึ่งมีแต่ความเมตตา และพร่ำสั่งสอนให้เอาของจริงไปปฏิบัติ ข้าพเจ้าจะตั้งใจปฏิบัติธรรมและสวดมนต์ควบคู่กันไป ตามคำสั่งสอนของหลวงพ่อ ให้รู้จักรักตัวเอง อย่าเอาจิตไปฝากไว้กับคนอื่น เดี๋ยวนี้เมื่อสามีออกจากบ้าน ข้าพเจ้าก็สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องออกไปตามดูให้ต้องทุกข์ใจ

    ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อจรัญ ที่ท่านได้พร่ำสอนจนข้าพเจ้าได้พบกับความสุขที่แท้จริง ขออำนาจคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงประทานพรให้หลวงพ่อมีความสุข มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้กับลูกหลานทั้งหลาย ที่ยังหาหนทางที่จะพ้นทุกข์ไม่เจอ

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›