ก๖/๑๒ กุฏิเจ้าอาวาส

พระภาวนาวิสุทธิคุณ

 

    อาตมาอยู่กุฏิหลังนี้มานาน ๓๕ ปีแล้ว ค่อย ๆ ซ่อมแซม เปลี่ยนกระเบื้องเล็กเป็นกระเบื้องใหญ่ เปลี่ยนกระเบื้องใหญ่เป็นสังกะสี มันรั่วบ่อยนักเอาสังกะสีมุงเสียเลย ไม่มีใครมาอยู่กับเราหรอก ตอนกลางวันร้อนเหงื่อหยดลูกคาง

    ไม้พื้นทีแรกนึกว่าเป็นไม้สัก พอรื้อเข้าจริงเป็นไม้ตะแบก ผุหมดเลย

    อาตมาก็ไม่ได้รู้ว่าพวกกรุงเทพฯ เขาจะมาทำ คิดว่าจะทำกันเอง คอยช่างทำศาลาพักร้อนหน้าวัดให้เสร็จก่อน ซื้อสังกะสีมาเปลี่ยน รื้อไปเปลี่ยนวันเดียวก็อาจเสร็จ และคงจะใช้ทุนไม่เท่าไร

    มีอยู่วันหนึ่ง จิ้งจกสองหัวสองหางมาตีข้างฝา ตีแล้วร้องใหญ่และสักประเดี๋ยวหนูออกมาอีกแล้ว มาเยอะเลย มาดึงจีวรอาตมา อาตมาเลี้ยงไว้เยอะเลย ไม่กัดอะไรใครหรอก ให้กล้วยมันกิน

    เดี๋ยวแมลงสาบออกมาอีกแล้ว เดินกันเป็นหางหมด ก็เดินมาหาอาตมา เขาอยากจะพูดแต่พูดไม่ได้ ถ้าพูดได้ เขาคงบอกว่า หนีเถอะ เขาจะมารื้อกุฏิแล้ว

    อยู่ต่อมา ๓ วัน สัตว์เหล่านี้หนีหมดเลย เอากล้วยให้หนูกินก็ไม่มา แมลงสาบก็ไม่มี จิ้งจกสักตัวเดียวก็ไม่มี ตัวที่มาตีข้างฝาเมื่อ ๒ คืนที่แล้ว ก็ไม่มี หายไปหมด

    โยมปาริษา รุ่งโรจน์ธนกุล อยู่หมู่บ้านอยู่เจริญ ได้มาตกลงกันง่าย ๆ บอกว่า หลวงพ่อย้ายกุฏิเถอะ จะซ่อมสร้างให้ใหม่ เลยอาตมาก็ต้องย้าย

    พวกสัตว์เขารู้ก่อน หนีไปหมดเลย โบราณเขาบอกว่า จิ้งจกทักต้องเชื่อไว้ก่อน เด็กเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเชื่อพ่อแม่ แม่ว่า แม่ทัก แล้วยังจะมาเถียงแม่อีก

    พอช่างมาดู เขาบอกให้สร้างใหม่ดีกว่า รื้อตรงโน้นก็พัง ยุ่งไปหมด บานปลายออกไป เลยใช้ไม้แดง ไม้แดงหมด แต่อาตมาไม่มีเจตนาจะได้ไม้แดงหรอก ก็แล้วแต่เขา

 

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›