๑๗/๑๕ โชคดีจากของจริง

สุนีย์ นามประสิทธิ์

    ดิฉันนางสุนีย์ นามประสิทธิ์ รับราชการครูอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านหัวหิน ตำแหน่งอาจารย์ ๒ ระดับ ๗ อายุ ๕๘ ปี (จะลาออกในระยะใกล้นี้) เบื่อของปลอมมีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มาหาของจริงจากการปฏิบัติกรรมฐานเพื่อสะสมบุญไว้ให้ตัวเองจะได้มีสติ ชีวิตของเราไม่แน่นอน

    ประมาณห้าปีที่แล้วมีโอกาสแวะไปนมัสการหลวงพ่อจรัญ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีความคิดที่จะปฏิบัติกรรมฐานในขณะนั้น คนเราทุกคนไม่ใช่จะมีโอกาสเท่ากัน แล้วแต่วาสนาของใครก็ของคนนั้น

    ด้วยพื้นฐานและอุปนิสัยของดิฉัน พ่อของดิฉันก็บวช ป้าก็บวช ตัวดิฉันก็วนเวียนอยู่กับธรรมะ ในการสอนนักเรียนดิฉันก็สอดแทรกเล่านิทานเกี่ยวกับกฏแห่งกรรม แทรกศีลห้า แทรกธรรมะ เพื่อปลูกฝังเด็กให้ละอายต่อความชั่ว เกรงกลัวต่อการทำบาป เด็กจะสนุกสนใจ ไม่ได้สอนเพื่อท่องไปสอบ แต่สอนเพื่อให้เข้าใจและนำไปปฏิบัติ ดิฉันชอบอ่านเรื่องกฏแห่งกรรม สมัยก่อนก็ต้อง ท.เลียงพิบูล หนังสือโลกทิพย์ รายการวิทยุก็ฟัง เพลินกับธรรมะ แต่เดี๋ยวนี้มักจะเป็นการบอกบุญมากไปก็หยุดฟัง รายการธรรมะทางโทรทัศน์ก็ชอบชม ชมแล้วมีความสุข จะว่าสนุกเพลินด้วยก็ไม่น่าจะผิด ทำให้มีปัญญาจากข้อธรรมะ และรายการชีวิตนี้ไม่สิ้นหวังที่หลวงพ่อจรัญแสดงธรรมะก็ไม่พลาดเช่นกัน แต่ไม่ได้ยึดติดกับพระรูปใดรูปหนึ่ง (หมายถึงตอนนั้น) แต่ตอนนี้ขอเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ เพราะหลวงพ่อให้ความเมตตาต่อทุกคนอย่างเทียมกัน โดยเฉพาะคนที่ปฏิบัติกรรมฐาน ดิฉันเพียรพยายามอยู่แต่ยากมากเหลือเกิน เพื่อความสุข เพื่อของจริง ไม่ยอมถอย อย่างเด็ดขาด ใครไม่พบด้วยตนเองก็จะไม่รู้ ที่ดิฉันปฏิบัติอยู่นี่เพียงน้อยนิด คิดว่าเราทำได้เพียงหนึ่งในล้าน แต่มีค่ามหาศาลกับชีวิตตัวเอง

    ดิฉันได้มาปฏิบัติกรรมฐานเพียงห้าครั้งเท่านั้น แต่ละครั้งระยะปฏิบัติเจ็ดวัน เก้าวัน ถ้าช่วงปิดเทอมสิบสี่วัน ก่อนที่ดิฉันจะได้มาปฏิบัติ ประมาณปลายปี ๒๕๓๔ คืนหนึ่งนอนหลับฝันเห็นหลวงพ่อ น่าแปลกอย่างที่เกริ่นมา ดิฉันไม่ได้ยึดติดกับพระรูปใดเป็นพิเศษ ทำไมจึงฝันเห็นหลวงพ่อ ไม่ได้คิดถึงสักนิด ในฝันก็ไม่เห็นท่านพูดอะไร เพียงเห็นว่าคือหลวงพ่อจรัญมองมาก็แค่นั้น พูดอะไรก็ไม่พูด อยากจะไปวัดหลวงพ่อจรัญขึ้นมาทันที แต่ก็ไปไม่ถูก ไม่เคยไปไหนคนเดียว เรียกว่าอยู่บ้านกับโรงเรียนเท่านั้น

    หลังจากฝันเห็นหลวงพ่อได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ดิฉันได้เล่าความฝันให้เพื่อนฟัง และบอกว่าต้องการไปวัดของหลวงพ่อจรัญ เขาก็บอกว่าให้ไปหาลูกศิษย์หลวงพ่อซิ ชื่อคุณถวัลย์-คุณพานิชที่ร้านขายโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างแขวงการทาง ชื่อร้านวิริยะโชคดี และเขาก็พาไปพบ เมื่อได้พบและพูดคุยกันก็มีโอกาสไปวัด เพราะคุณถวัลย์-คุณพานิชจะไปงานทำบุญปีสำคัญของหลวงพ่อ ต่อมาก็ได้มีโอกาสได้ไปปฏิบัติกรรมฐาน โดยไปกับคุณถวัลย์และคุณพานิช สมาบุตร ผู้ที่มีเมตตาอีกหลายครั้ง ดิฉันดีใจและภูมิใจมากที่ได้ชื่อว่าได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ

    การปฏิบัติกรรมฐานเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็พยายามอดทน สิ่งที่ได้จากการนั่งกรรมฐานที่เห็นได้ชัดคือหลังจากแผ่เมตตาแล้วมีความรู้สึกว่าเราได้เป็นผู้ให้ มีความสุขมากที่ได้ให้ ศัตรูก็ไม่เข้าใกล้ คนที่คิดร้ายก็ถอยห่างและกลับมาเป็นมิตร

    ดิฉันได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานมาถ่ายทอดให้นักเรียนและเพื่อนครู และนำหนังสือที่ได้รับมาแจกให้เพื่อนครู นักเรียน และผู้ปกครองเด็กในบางส่วน สอนนักเรียนให้สวดมนต์นมัสการพระรัตนตรัย นั่งสมาธิ แผ่เมตตาก่อนการเรียนการสอนทุกวัน ปัจจุบันนี้นักเรียนสามารถปฏิบัติได้เองทุกขั้นตอน ตามความเหมาะสมกับวัยเด็ก

    หลังจากที่แจกหนังสือให้เพื่อครูไปไม่นานนัก ก็มีครูคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่าเขากลุ้มใจไม่รู้จะพึ่งใคร พ่อป่วยมาก ต้องเข้ารักษาตัวที่กรุงเทพฯ อยู่ห้องไอซียู ขยับตัวไม่ได้ พี่ๆเปลี่ยนเวรกันไปเฝ้า ตัวเขาก็ต้องลางานไปเฝ้าบ้าง ไปเฝ้าวันหยุดบ้าง หมดที่พึ่งก็นึกถึงหนังสือที่ได้รับแจก ได้สวดมนต์ตามที่หลวงพ่ออธิบายไว้ในหนังสือและนึกถึงพ่อ สวดมนต์เป็นประจำทุกวันทำให้นอนหลับ วันไหนไม่สวดมนต์นอนไม่หลับและวิตกกังวลห่วงพ่อ เขาบอกเหมือนปฏิหาริย์ พ่อขยับตัวได้แล้ว ปัจจุบันใกล้จะกลับบ้านที่หัวหิน เขาบอกว่าเขาทราบและรู้จักหลวงพ่อมาก่อนจากเพื่อน เพราะเพื่อนเขาก็ไปปฏิบัติกรรมฐานเหมือนกัน แต่ตัวเขาเองยังหาเวลาไปปฏิบัติไม่ได้ ก็คงเหมือนอีกหลายๆคนที่เป็นเช่นนี้

    ส่วนตัวดิฉันไม่รอใครอีกแล้ว รอให้เด็กนักเรียนอีกห้าเดือนหมดเทอมก็จะขอลาออก ความสุขของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน จะให้เขาเหมือนเรา และให้เราเหมือนเขาย่อมเป็นไปไม่ได้ เราชอบความสุขในลักษณะใดก็ให้ค้นหาให้พบแล้วเลือกเอา ไม่มีใครบังคับ บางคนชอบของจริง บางคนชอบของปลอม จะรู้ได้ว่าสิ่งไหนปลอม สิ่งไหนจริงก็ต้องมาปฏิบัติกรรมฐาน

    ในฐานะเป็นครู ดิฉันอยากจะให้ผู้ใหญ่เห็นความสำคัญในการปฏิบัติมากกว่าภาคทฤษฎีที่มีไว้ให้ครูสอนแค่เพื่อให้เด็กทำข้อสอบ เราควรปลูกฝังธรรมะให้นักเรียนตั้งแต่เมื่อเขายังเยาว์วัย จะมีวิธีการใดที่ให้ครูได้ไปปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ต้องมากปีละสองครั้ง ครั้งละ ๗-๙ วัน จะได้ประโยชน์กับตัวครูเอง ครอบครัว และนักเรียน

    ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาส เช่นอนุญาตให้ไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยไม่ถือเป็นวันลา ก็จะเป็นการจูงใจ เมื่อครูปฏิบัติศีลห้า เมื่อครูปฏิบัติกรรมฐาน ครูและผู้บริหารเป็นพวกเดียวกัน เข้าใจตรงกัน ปฏิบัติในเรื่องเดียวกันครูได้อย่างไรเด็กก็ได้อย่างนั้น การเรียนการสอนก็จะดีขึ้น

    ดิฉันได้รับรางวัลจากการปฏิบัติกรรมฐาน ดิฉันไม่ได้เก่งเกินใคร ซ้ำการปฏิบัติตนเรียบง่าย แทบไม่อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดิฉันได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “ครูสดุดี” ณ วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๕ และได้รับโล่เกียรติคุณ สาขาพัฒนามาตรฐานการศึกษา ส่งเสริมศาสนา เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๕ ดิฉันภูมิใจที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้ เป็นรางวัลที่ได้ก่อนจะอำลาอาชีพครูการที่ได้ปฏิบัติกรรมฐานและสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ (พาหุงมหากา) และพุทธคุณเท่าอายุบวก ๑ อย่างสม่ำเสมอ และพยายามรักษาศีลห้าอยู่เสมอ ทำให้ดิฉันได้รับรางวัลชีวิตที่ยิ่งใหญ่ซึ่งไม่มีรางวัลใดจะใหญ่เท่า ลูกชายคนเดียวของดิฉัน (มีแค่สองคนแม่ลูก สามีเสียชีวิตแล้ว) ไม่เคยทำให้แม่ต้องทุกข์ใจ เขาเป็นคนดี จิตใจดี มีศีลห้าครบ ไม่ยุ่งอบายมุขทุกชนิด อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ฟุ้งเฟ้อ เชื่อมั่นในตัวเอง อ่อนโยนกับแม่และผู้ใหญ่ เขาให้สตางค์ดิฉันทำบุญเมื่อบอกเขาว่าจะไปปฏิบัติกรรมฐาน

    อานิสงส์ของการปฏิบัติกรรมฐานและสวดมนต์ ทำให้รู้จักตัวเอง ทำให้เกิดปัญญาสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง มีสติรู้อยู่ตลอดเวลา และเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวก็มีแต่ความสุข เมื่อท่านต้องการค้นพบตัวเอง ต้องการพบของจริง ท่านก็ต้องปฏิบัติกรรมฐาน เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ต้องมาเรียนรู้ด้วยตนเอง

    การปฏิบัติกรรมฐานจะช่วยให้ได้พบตัวตนที่แท้จริงของเรา ช่วยให้ลดละความโกรธ ให้อภัย และเชื่อกฏแห่งกรรม จิตคิดแต่กุศล และมีสติห่างไกลความชั่ว กิเลสเบาบาง ไม่ยึดติดในลาภ ยศ คำสรรเสริญเยินยอ

    สุดท้ายนี้ลูกขอกราบขอบพระคุณพระเทพสิงหบูราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ) ที่ได้โปรดเมตตา นับว่าเป็นโชควาสนาของดิฉันและลูกชายที่ได้มาอยู่ใต้ใบบุญของหลวงพ่อ ลูกขอกราบนมัสการหลวงพ่อด้วยความสำนึกในพระคุณอย่างสูง

 

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›