๑๘/๑๗ วิปัสสนากรรมฐาน คือ พลังของชีวิต

สุทธิดา

    ดิฉันอายุ ๔๑ ปี ทำธุรกิจขายตรงกับบริษัทแห่งหนึ่ง ชีวิตของดิฉันประสบความทุกข์อย่างสาหัส เริ่มตั้งแต่ถูกข่มขืนโดยผู้มีพระคุณเมื่อมีอายุแค่ ๑๐-๑๑ ขวบ ตัดสินใจเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ช่วยไม่ได้ แม่เกลียดลูกผู้หญิง ที่บ้านมีพี่น้องรวมดิฉัน ๘ คน ผู้หญิง ๓ คน แม่ชอบด่าว่ามีผู้หญิงเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน แม่ติดไพ่ ชีวิตของแม่ส่วนมากอยู่ในบ่อนไพ่ พี่สาวเลี้ยงดูดิฉันช่วงสั้น พอพี่สาวออกเรือนไป พี่ชายคนโตเกเรมากชอบรังแกดิฉันเสมอ พี่ชายคนที่สองขยัน รักพ่อรักแม่และรับผิดชอบภายในบ้าน ชีวิตของดิฉัน พ่อ แม่ และน้องสาว ขึ้นอยู่กับพี่ชายคนนี้

    มีเหตุการณ์ต่างๆเข้ามาในชีวิตของดิฉันมาก ดิฉันเคยคิดถึงขึ้นฆ่าตัวตาย ดิฉันมองโลกในแง่ร้าย ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ เป็นคนเก็บกด ดื้อรั้น ก้าวร้าว พูดโดยไม่คิดบางครั้งเป็นการทำร้ายผู้มีพระคุณ เคยหาที่พึ่งทางใจ โดยเข้าวิปัสสนากรรมฐานหลายครั้ง แต่พอกลับบ้านดิฉันก็เป็นเหมือนเดิม แก้ไขปัญหาชีวิตไม่ได้

    จนกระทั่งเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ดิฉันขอให้เพื่อนช่วยเหลือ ดิฉันยอมแพ้แล้ว ดิฉันตกลงที่จะไปวัดอัมพวันตามที่เพื่อนบอก

    ดิฉันอยู่ปฏิบัติวิปัสสนาเป็นเวลา ๔ วัน สิ่งที่ได้รับมาละจดจำมาตลอด คือข้อความในแผ่นป้ายหน้าห้องลงทะเบียน ซึ่งเขียนไว้ว่า “อดทนได้ รอได้ สำเร็จได้” มีกฏระเบียบการปฎิบัติธรรม ไม่มีการเรี่ยไรเงินทำบุญ มีชุดแจก มีข้าวให้กิน โดยไม่เสียเงิน มีแม่ครูคอยให้คำแนะนำดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด รู้สึกประทับใจมาก

    หลังจากครบ ๔ วัน ดิฉันรู้แล้วว่าดิฉันเจอทางพ้นทุกข์แล้ว ต่อมากลางเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๓ ดิฉันก็ไปอีก และไปอย่างต่อเนื่อง ดิฉันทำตามกฏระเบียบของวัดอัมพวัน ออกปฏิบัติทุกรอบไม่เคยเหลวไหล หรือแอบนอน ไม่เดินเพ่นพ่าน สิ่งที่ได้ยินตอนนั้นบ่อยมาก แม่คือพระอรหันต์ แม่คือพระพรหม ถ้าอยากปฏิบัติได้ก้าวหน้าให้ไปขอขมามารดา

    พอมาปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ดิฉันก็ได้ทำสิ่งที่มีค่ายิ่งคือ ได้มีโอกาสปฏิบัติดูแลแม่อย่างใกล้ชิด เพราะแม่ป่วยหนัก ในขณะที่พี่น้องต้องทำงาน ดิฉันโชคดีที่สุด ดิฉันคิดเสมอตอนดูแลแม่ คอยเปลี่ยนแพมเพอร์ส (ผ้าอ้อมผู้ใหญ่) เช็ดอุจจาระ ให้แม่ขี่คอ พาไปอาบน้ำ แม่ให้ชีวิตฉันเกิดมา หนี้บุญคุณนี้ใช้จนตายก็ไม่หมด อาการแม่เริ่มทรุดหนัก จากพลิกตัวได้ก็ไม่ได้ จากนั่งได้ก็ไม่ได้ ตอนดึกตี ๑ ตี ๒ เคยร้องหิวก็ไม่มีเสียง ระบบภายในร่างกายไม่ตอบรับ ถ่ายตลอด ดิฉันจับพลิกซ้าย อุจจาระออกมาเป็นเลือด พลิกขวาก็ออกมาเป็นเลือด จนวันสุดท้ายแม่ก็จากไปอย่างสงบกับอกของดิฉัน ดิฉันสวดมนต์อิติปิโสกี่รอบไม่ได้นับ นี่คือสิ่งที่ดิฉันได้จากการวิปัสสนากรรมฐาน ดีใจได้ทำหน้าที่ของลูก ด้วยความรัก ด้วยความเต็มใจ ดิฉันได้ใจพี่น้องเกือบทุกคน ถ้าดิฉันไม่ได้วิปัสสนากรรมฐาน ดิฉันคงคิดว่าทำไมดิฉันต้องเป็นดูแลแม่ และดิฉันคงต้องตกนรกทั้งเป็นด้วยความอกกตัญญูอย่างแน่นอน

    หลังจากเสร็จงานศพแม่ ดิฉันก็ได้ไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างต่อเนื่อง การปฏิบัติค่อยๆดีขึ้น ลมหายใจละเอียดขึ้น ได้รู้มากขึ้นถึงการทำบุญให้ได้ความสุข ใจเย็นขึ้น มีสติมากขึ้น สุขภาพดีขึ้น ภูมิแพ้หาย ท้องไม่ผูก จากคนอ้วนกลายเป็นไม่อ้วน ดิฉันกลายเป็นอ่อนโยนอ่อนน้อมถ่อมตน เริ่มได้คุณสมบัติมนุษย์เพิ่มขึ้นทีละนิด

    ดิฉันปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติ ดิฉันได้ไปปฏิบัติธรรมทั้งที่วัดอัมพวันและที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จังหวัดขอนแก่น โดยมีท่านพระครูเป็นผู้แนะนำและควบคุมการปฏิบัติ เมื่อกลับบ้านก็ปฏิบัติ อย่างต่อเนื่องไม่เคยขาด ยิ่งปฏิบัติก็ยิ่งรู้มากขึ้น สวดมนต์พุทธชัยมงคลตาถา และอิติปิโส ๑๐๘ จบ ก่อนนอนและตอนเช้า เริ่มมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต การมองคนในแง่ร้ายหายไป รู้จักคิดก่อนพูด ความก้าวร้าวในตัวหายไป ได้พบกัลยาณมิตร

    ดิฉันมีวันนี้ได้เพราะมีหลวงพ่อเป็นที่พึ่งและกำลังใจ หลวงพ่อเป็นทั้งผู้ให้และช่วยเหลือตลอดมา พระคุณของหลวงพ่อมากล้นสุดพรรนาได้ ดิฉันขอกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ขอให้หลวงพ่อมีสุขภาพแข็งแรง และอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของทุกๆ คนตลอดไป

 

คณะผู้จัดทำ http://www.jarun.org/contact-webmaster.html
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ บรรพบุรุษ บิดา มารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณ ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพ ทุกชาติ

กลับหน้าหลัก ›